เหตุการณ์กบฎเงี้ยวปล้นเมืองแพร่ ของ พระวิไชยราชา (หนานขัติ แสนศิริพันธุ์)

ในปีพ.ศ. 2445 ได้เกิดความไม่สงบขึ้นในเมืองแพร่ โดยพวกไทใหญ่หรือเงี้ยวที่ได้เข้ามาอยู่อาศัยในเมืองแพร่ และทำมาหากินในการขุดพลอย ประเภทพลอยไพลินที่ตำบลบ่อแก้ว อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ในปัจจุบัน ได้ทำการก่อจลาจลในเมืองแพร่เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2445 จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหลวงนครแพร่ถูกกล่าวหาว่าคบกับพวกเงี้ยว เจ้าพิริยเทพวงษ์จึงต้องเสด็จหลีภัยการเมืองไปประทับเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว[4] และได้พำนักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งพิราลัยในปี พ.ศ. 2455 ส่วนเจ้านายองค์อื่นๆถูกถอดยศศักดิ์ ถูกควบคุมลงไปกักตัวไว้ที่กรุงเทพฯ และให้ชดใช้ค่าเสียหายต่างๆ ร่วมถึงพระวิไชยราชา (เจ้าขัติ แสนศิริพันธุ์) ซึ่งมีส่วนรู้เห็นแต่ไม่ได้รับโทษหนัก เพราะเป็นเจ้านายระดับรองลงมาที่ไม่ได้เป็นเจ้าชั้นใกล้ชิดกับเจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ เพียงแต่ถูกสยามควบคุมดูความประพฤติ ต่อมาได้ร่วมกับพระวังซ้าย (เจ้าหนานมหาจักร) พระสุริยะ (เจ้าน้อยมหาอินทร์) พระคำลือ ฯลฯ เจ้านายอื่นๆพร้อมกับบุตรหลานรวมจนถึงขุนนางในนครแพร่ พากันบริจาคเงินก้อนใหญ่รายละ 50 – 100 บาท เพื่อสร้างโรงพยาบาลทหารที่นครแพร่ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2445 ตามความคิดของคุณหญิงเลี่ยม ภริยาของพลโท เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี แม่ทัพใหญ่ปราบกบฏเงี้ยว[5]

ใกล้เคียง